0

FILLER / MESOFAT

Filler


ฟิลเลอร์ Neuramis (นิวรามิส) เป็นฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลิตจากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย ซึ่งหลายคนอาจรู้จักกันในชื่อฟิลเลอร์กล่องดำ และฟิลเลอร์กล่องทอง 

ฟิลเลอร์ Neuramis มีกี่รุ่น อยู่ได้กี่เดือน ?
ปัจจุบันฟิลเลอร์ Neuramis มี 5 รุ่น ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง KFDA จากเกาหลี, U.S.FDA จากสหรัฐอเมริกา EDQM จากยุโรป แต่มีเพียง 3 รุ่นที่ผ่านอย.ไทย (อัปเดต พฤศจิกายน 2567) 
  1. Neuramis รุ่น Deep หรือที่รู้จักกันในชื่อฟิลเลอร์กล่องดำ เป็นรุ่นแรกที่ผ่านอย.ไทย ถูกนำมาใช้เป็นรุ่นแรก เป็นรุ่นที่ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด ให้ผลลัพธ์นาน 6-8 เดือน
  2. Neuramis รุ่น Volume Lidocaine หรือฟิลเลอร์กล่องทอง เนื้อเจลหนืดที่สุดในทุกรุ่นที่มี มีความยืดหยุ่น คงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เติมเต็มปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก และมีส่วนผสมของยาชา ให้ผลลัพธ์นาน 6-9 เดือน
ฟิลเลอร์ Neuramis เหมาะกับฉีดบริเวณใด?
ในแต่ละปัญหา และบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้า จะเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความเหมาะสม โดยแพทย์จะต้องประเมินปัญหาของคนไข้แต่ละเคส ถึงจะแนะนำยี่ห้อ และรุ่นที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาแต่ละจุดให้

สำหรับฟิลเลอร์ Neuramis นิยมใช้ฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกปานกลาง-มาก ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย และยกกระชับใบหน้าในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง
e.p.t.q. filler คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์เกาหลี เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) หรือไฮยาลูรอน ใช้ในการฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ผลิตโดย JETEMA Co.,Ltd. ประเทศเกาหลี เมื่อปี 2020 นำเข้าโดยบริษัท เอสทีมา จำกัด ผ่านการรับรองจากอย.ไทย U.S.FDA และ EDQM ว่ามีความปลอดภัย

กระบวนการทำงานของ e.p.t.q. filler
กระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ เมื่อฉีดลงในชั้นผิวหรือใต้ผิวหนังจะช่วยเติมเต็มให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น ทดแทนคอลลาเจนและอีลาสตินที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เป็นร่องลึกและริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย 

e.p.t.q. filler มีสาร HA ความเข้มข้นสูง 24 mg/ml และมีโครงสร้างโมเลกุล HA ในรูปแบบรวงผึ้ง หรือ HIVE ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนืดและยืดหยุ่น โดยกระบวนการทำงานของ e.p.t.q. filler กระบวนการผลิต รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ ยังได้อธิบายไว้อยู่ในชื่อยี่ห้อ e.p.t.q. ดังนี้
  • e : efficiency ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ในปริมาณความเข้มข้น 24mg/ml ในแบบโครงสร้าง HIVE Structure
  • p : potential ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ลดโอกาสการแพ้และผลข้างเคียง
  • t : technology ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 2CM Technology (2 Crosslinking Method) เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของโมเลกุล HA ให้แน่นยิ่งขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และ Downing Process ทำให้ฟิลเลอร์อนุภาค เนื้อละเอียด 
  • q : quality ใช้เกณฑ์ The 9 Essential ควบคุมคุณภาพการผลิต
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler มีกี่รุ่น ?
e.p.t.q. filler มีทั้งหมด 5 รุ่น แต่รุ่นที่ผ่านอย. มี 3 รุ่น คือ  
  • ฟิลเลอร์ eptq กล่องเขียว (e.p.t.q. S100) 
  • ฟิลเลอร์ eptq กล่องส้ม (e.p.t.q. S300)
  • ฟิลเลอร์ eptq กล่องสีน้ำเงิน ( e.p.t.q. S500)
ฟิลเลอร์ eptq แต่ละสี แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในด้านลักษณะของเนื้อเจล ความนิ่ม ความแข็ง ความหนัก ความเบา ความยืดหยุ่น การยึดเกาะกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และความเหมาะสมในการเติมเต็มใบหน้าในแต่ละบริเวณ

ข้อดีของฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler ?
e.p.t.q. filler ที่ผ่านอย. ทั้ง 3 รุ่น มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยลดความเจ็บขณะฉีด ฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น เนียนละเอียด ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินปัญหาได้แม่นยำ ตรงจุด เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี และรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และประสบการณ์ของแพทย์

ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler เหมาะกับฉีดตำแหน่งไหน ?
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ฉีดฟิลเลอร์จมูก
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. filler อยู่ได้นานไหม ?
e.p.t.q filler อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน สั้นกว่าฟิลเลอร์ฝั่งยุโรป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์
  • ห้ามบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด 
  • งดออกกำลังกายหนัก 48 ชม.แรก 
  • งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก 1 เดือน 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตร/วัน
ฟิลเลอร์ Yvoire (อีโวร์) เป็นฟิลเลอร์ของประเทศเกาหลีอีกยี่ห้อที่ตอนนี้ผ่าน อย.ไทย เป็นที่เรียบร้อย โดยจุดเด่นที่น่าจับตามองของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้คือ เทคโนโลยีการผลิต HICE Technology ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ และมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ สามารถฉีดแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หลายตำแหน่ง

ฉีดฟิลเลอร์ yvoire ช่วยอะไรบ้าง ?
  • แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมส่วน ดูมีมิติมากขึ้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง
  • ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวอิ่มน้ำ
  • ช่วยปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง
  • ช่วยปรับรูปหน้า แก้ปัญหาผิวได้เห็นผลทันทีหลังทำ
ฟิลเลอร์ Yvoier มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Yvoier มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 รุ่น ซึ่งมียาชา (Lidocaine) ผสมอยู่ในตัวทุกรุ่น ได้แก่
  • Yvoire รุ่น Classic Plus
  • Yvoire รุ่น Classic S
  • Yvoire รุ่น Contour
  • Yvoire รุ่น Contour 1.0
  • Yvoire รุ่น Volume S
  • Yvoire รุ่น Volume Plus
โดยรุ่นที่นิยมใช้ในคลินิกความงามจะมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่นครับ แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติ เนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับฉีดแก้ปัญหาแต่ละตำแหน่งต่างกันไป ดังนี้

ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น Classic Plus (กล่องสีเขียว) เหมาะฉีดเติมผิวชั้นบน (Upper Dermal Layers) เพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาริ้วรอยเล็กๆ ตื้น ๆ บนใบหน้า บริเวณหัวคิ้ว ใต้ตา หรือเติมหลุมสิว

ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น Contour (กล่องสีขาว-ส้ม) เนื้อฟิลเลอร์ประกอบไปด้วยโมเลกุล 2 ขนาด (Duo Particle) ได้แก่ โมเลกุลขนาดใหญ่ยกกระชับใต้ผิว และโมเลกุลขนาดเล็กเติมเต็มช่องว่างของผิว คงรูปได้ดี จึงเหมาะฉีดเติมเต็มผิวชั้นลึก (Deep Dermal Layers) โหนกแก้ม คาง และกรอบหน้า

ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่น Volume Plus (กล่องม่วง) เหมาะสำหรับฉีดเติมผิวชั้นกลาง (Middle Dermal Layers) ริมฝีปาก หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ

ฟิลเลอร์ Yvoier ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? แต่ละจุดใช้กี่ cc ?
ฟิลเลอร์ Yvoier สามารถนำมาฉีดแก้ปัญหาผิว ปรับรูปหน้าได้หลายตำแหน่ง ในส่วนของจำนวน cc ที่ใช้ขึ้นอยู่กับหมอเป็นผู้ประเมินตามระดับปัญหาของแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่ฉีด 
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ใช้ 2-4 cc
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม แก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ใช้ 1-2 cc
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง เสริมคาง ปรับหน้าเรียว ใช้ 1-2 cc
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เติมเต็มร่องลึกให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ใช้ 1-3 cc
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ เสริมโหงวเฮ้ง ใช้ 3-5 cc
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมขมับตอบให้เต็มขึ้น ใบหน้าหวานได้สัดส่วน ใช้ 2-4 cc
ฟิลเลอร์ yvoire อยู่ได้นานไหม ?
  • ฟิลเลอร์ Yvoire Classic Plus อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
  • ฟิลเลอร์ Yvoire Contour อยู่ได้นาน 12-18 เดือน 
  • ฟิลเลอร์ Yvoire Volume Plus อยู่ได้นาน 9-12 เดือน 
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (ไฮยารูลอนิกแอซิด) มีความปลอดภัยเพราะใกล้เคียงกับไฮยารูลอนิกแอซิดที่อยู่ในร่างกายของเรา จึงไม่เกิดการต่อต้านหรือเกิดอาการแพ้ระคายเคือง สามารถนำมาฉีดได้หลายบริเวณโดยเฉพาะฉีดใต้ตา และช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ทั้งร่องลึก ร่องตื้น ให้ผิวกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง

ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น เหมาะกับส่วนไหน ?
  • Restylane Vital Light : ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หรือฟิลเลอร์ Skin Booster ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชา เป็นฟิลเลอร์โมเลกุลเบา เจลอนุภาคเล็ก เนื้อละเอียด สามารถแก้ไขจุดที่ปัญหาเล็ก ๆ เหมาะสำหรับปรับคืนความชุ่มชื้นของผิวหนัง ฟื้นฟูใบหน้าให้กระจ่างใส เหมาะกับฉีดเก็บรายละเอียด ใต้ตา ผิวชั้นตื้น ปาก มือ สามารถอยู่นานประมาณ 6-12 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft : เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นที่มีส่วนผสมของยาชา สามารถใช้ฉีดใต้ตา ฉีดจมูก ฉีดคาง ฉีดกรอบหน้าได้ หรือทำฟิลเลอร์แก้มส้มได้ เพราะมีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด ย่อยสลายได้เองและสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Classic : เป็นฟิลเลอร์ที่ผสมของยาชา ใช้เจลอนุภาคใหญ่ เนื้อแน่น ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึกสำหรับคนผิวบาง เหมาะกับการฉีดร่องตื้นกว่าเช่น ร่องแก้มตื้น ๆ ร่องรอยขมวดคิ้ว ใต้ตา สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Kysse : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ พร้อมทั้งปรับสีปากให้ดูสดใสขึ้นได้ หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane มีหลายรุ่น คุณสมบัติหลากหลาย สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา : ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตาลึก ตาโหล ริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตา 
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ร่องแก้มลึก มีริ้วรอยร่องแก้ม หน้าหย่อนคล้อย  
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม : แก้มตอบ หน้าแก้มเป็นแอ่งยุบ หน้าแบน ขาดมิติ   
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก : หน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากเป็นคลื่น มีรอยย่น  
  • ฟิลเลอร์ขมับ : ขมับยุบ ขมับตอบ ขมับลึกเป็นแอ่ง ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน 
  • ฟิลเลอร์ปาก : ปากแห้ง มีร่องปาก ปากคว่ำ มุมปากตก ทรงปากไม่สวย 
  • ฟิลเลอร์คาง : คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางไม่เท่ากัน หน้ากลม  
  • ฟิลเลอร์กรอบหน้า : หน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เรียว 
  • ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว : ผิวแห้งขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง หน้าไม่เรียบเนียน   
  • ฟิลเลอร์มือ : มือเหี่ยว มีริ้วรอย แห้งกร้าน 
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ Restylane

ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ Restylane
รวมถึงฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่ามากที่สุด หลังฉีดก็ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
  • ใน 2-3 คืนแรกหลังทำ ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่ควรนอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับหน้า ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
  • ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น การสัมผัสอากาศร้อน เช่น แสงแดด เตา หรือกระทะร้อน ๆในช่วงระยะเวลา 3 วันหลังฉีด และไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้เคลื่อนที่ไปผิดตำแหน่งได้
  • ควรหมั่นดื่มน้ำให้มาก ๆ งดการสัมผัส หรือขัดถูบริเวณที่ฉีด
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 48 ชม.
  • หากต้องการฉีดเพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 6 เดือน ก่อนจะทำการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกในการนำมาใช้ปรับรูปหน้า ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox Allergan 

ฟิลเลอร์ juvederm เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย นำเข้าโดย บริษัท Allergan Thailand

ฟิลเลอร์ juvederm มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?
จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Juvederm คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง ถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) จึงช่วยให้ขณะฉีดไม่รู้สึกเจ็บ 

ปัจจุบันฟิลเลอร์ juvederm ผลิตออกมาหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน รวมถึงใช้เทคโนโนโลยีกระบวนการผลิตแตกต่างกันด้วยเพื่อให้แพทย์นำมาใช้ในแต่ละบริเวณอย่างเหมาะสม 

Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลางครับ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการแก้ไขใต้ตา ร่องแก้ม และยังสามารถใช้เติมคางและขมับหรือส่วนอื่นได้ตามเทคนิคของแพทย์ หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
 

 

    

Meso FAT


เมโสแฟต SISI  จากประเทศเกาหลีใต้ โดยบริษัท เซเลส (ประเทศไทย) ผ่านการจดทะเบียนรับรองจาก อย. ประเทศไทย โดดเด่นด้วยส่วนประกอบจากพืชกว่า 12 ชนิด และมีส่วนประกอบหลัก 3 ชนิดที่เหนือกว่า และไม่เหมือนยี่ห้ออื่น ได้แก่ Disodium Adenosine Phosphate, Vitamin B12 ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส และมีส่วนช่วยให้ไขมันสลายได้รวดเร็วและกระชับผิวหน้าได้ดี นอกจากนี้ หลังฉีดจะรู้สึกไม่ปวด ไม่บวม ไม่แสบ

FAT SISI มี 2 สูตร
  1. สูตรสำหรับใบหน้า หรือที่เรียกว่า SISI FACE เหมาะกับผู้ที่สนใจลดบริเวณแก้ม เหนียง ใต้คาง
  2. สูตรสำหรับลำตัว หรือที่เรียกว่า SISI BODY เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดบริเวณต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
จุดเด่นของ FAT SISI
  1. ไม่ปวด ไม่บวม ไม่แสบ
  2. ไม่มี L-Carnitine (คนที่แพ้อาหารทะเลสามารถใช้ได้)
  3. ไม่มี Caffeine (ไม่ทำให้ใจสั่น)
  4. ไม่มี Dioxycholic Acid (DA) และ Phosphatidylcholine (PPC) ซึ่งทำให้แสบ ปวด บวม หากใช้ปริมาณที่มากเกินไป
  5. เห็นผลชัดเจนภายใน 7-10 วัน
  6. ดูดซึมไว ไม่เป็นก้อน
FAT SISI เหมาะกับใครบ้าง
  1. ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเยอะ
  2. ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือดูดไขมันให้เจ็บตัว
  3. ผู้ที่มีไขมันลดยาก
  4. ผู้ที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วเห็นผลช้า หรือต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วน
  5. ผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าชัด
ระยะเวลาเห็นผลของ FAT SISI
หลังจากฉีด SISI FAT ไปแล้ว จะเริ่มเห็นผลภายใน 7-10 วัน และจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล

การดูแลหลังฉีดเมโสแฟต
  1. หลังฉีดเมโสแฟตควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อเป็นการเร่งการขับไขมันที่สลายจากการฉีดออกไปจากร่างกาย
  2. ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อน เช่น การอบซาวน่า เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาฟกช้ำที่ผิว
  3. ไม่ควรกด ถู นวด หรือจับบริเวณที่ฉีดแรงๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหรืออักเสบได้
  4. หลีกเลี่ยงของร้อน ของมัน ของทอด เพราะอาจทำให้เกิดไขมันส่วนเกินเพิ่มขึ้นและลดประสิทธิภาพของเมโสแฟต อีกทั้งของร้อนจัดอาจทำให้เมโสแฟตทำงานได้ไม่เต็มที่อีกด้วย
  5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดการสูบบุหรี่หลังการฉีดเมโสแฟตอย่างน้อยสามวันเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน
  6. สามารถออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเพิ่มความกระชับของผิวหลังฉีดได้